ดินดีต้องมีไส้เดือน??

ดินดีต้องมีไส้เดือน??

ดินดีต้องมีไส้เดือน เป็นคำที่ผมนำมาเป็นคำเดินเรื่องวันนี้ ก็ด้วยเหตุที่ว่า ในสวนยางพารา ของผมนั้น มีไส้เดือนอยู่จำนวนมาก ช่วงหน้าแล้งแทบไม่เห็นเอาเสียเลย แต่ก็พอจะมีให้เห็นบ้างก็ตรงที่ เห็นมดแดงหามขึ้นต้นไหม้นั่นแหละ ทำให้รู้ว่าใต้ดินเรามีไส้เดือน 

ไส้ดินในสวนยางพารา ไม่ต้องไปสรรหาที่ไหน เพราะคีย์สำคัญที่จะทำให้ทันมีหรือไม่ หรือ อยู่ในสวนหรือไม่ อยู่ที่ความชิ้นในดิน สวนของผมเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะช่วงหน้าแล้ง ก็จะจับตัวกันแข็งมาก เพราะเป็นทรายล้วน ขนาดขุดลงไปเป็นศอกยังแห้งเลย (ไม่ได้โม้) ผมชอบทดลอง เลยลองขุดดูบ้าง ทำโน่นทำนี่บ้าง เพื่อให้การทำสวนของเราให้เป็นไปตามความเหมาะสมถ้า ดินดีต้องมีไส้เดือน ดังนั้น สวนผมก็จะเป็นดินดีเป็นพักๆ คือ ดีในช่วงที่มีฝน เพราะจะเห็นขุยไส้เดือนเป็นจำนวนมาก ช่วงที่มีฝน

ทีนี้ถ้าว่า ถ้าสวนผมเป็นดินร่วน หรือดินเหนียว สวนผมจะมีไส้เดือนไหม คำตอบก็คือ มีเหมือนกัน ดินดีคือดินมีไส้เดือน โดยที่ผมไม่ต้องใช้เงินไปซื้อปุ๋ยอะไรที่จะทำให้ดินมีสัตว์ประเภทนี้เลย พอเพียงไปครับ

ข้อคิดสำหรับคนที่อยากให้ดินมีไส้เดือน

1 ทำให้ดินร่วน ถ้าสวนคุณเป็นดินเหนียว อยากให้กลายเป็นร่วนก็ต้องหาวิธี เช่น ปลูกพืชตระกูลถั่ว หรือ ปลูกปอเทือง แล้วไถกลบ เพื่อทำเป็นปุ๋ยพืชสด ขอให้ทำแค่สองครั้ง ก็เป็นดินร่วนแล้ว นี่เป็นวิธีการที่อาจจะช้าหน่อย แต่ประหยัดและไม่เสียเงิน (เพราะพันธุ์พืช เช่น ปอเทือง สามารถขอได้จากหน่วยงานพัฒนาที่ดินจังหวัดได้)

2 การใช้จุลินทรีย์ เพื่อย่อยสลายอินทรีย์วัตถุ ไม่ว่าจะเป็นใบไม้ กิ่งไม้ หรือ อื่นใด จุลินทรีย์ ก็สามารถทำขึ้นมาเองก็ได้ เพราะเดี๋ยวนี้มีสูตรมากมาย อีกทั้งหากต้องการสารเร่ง ก็สามารถขอ พด. 1-6 ได้ฟรีๆ จากหน่วยงานพัฒนาที่ดินจังหวัดได้เช่นเดียวกัน

3 ใช้ปุ๋ยชีวภาพร่วมกับปุ๋ยเคมี หากใช้ปุ๋ยชีวภาพ หรือ บรรดาปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก อะไรเหล่านี้ เข้าร่วมกับปุ๋ยเคมีเพราะจะช่วยให้จุลินทรีย์สามารถเจริญเติบโตได้ดี และช่วยย่อยสลายได้ไวมากขึ้น บางคนฟังวิทยุบ่อยเลยหลวมตัวไปซื้อสารมาราดสวนเพื่อปรับปรุงสภาพดิน หรือ ย่อยสลาย ถ้าได้อ่านบทความนี้แล้วท่านจะรู้ว่า การทำเกษตร ไม่ใช่เรื่องยาก และการลดต้นทุนก็ง่ายไม่ใช่น้อยเหมือนกัน

4 ลองใช้ปุ๋ยสูตรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ หรือไม่ก็ สูตรของสันติอโศก เป็นต้น จะช่วยได้เยอะครับนี่เป็นขั้นตอนง่ายๆ และรู้ทันการค้าขาย ผมเคยพูดถึงบ่อยๆ ว่า การใช้ปุ๋ย ให้ดูสูตร อย่าดูที่ชื่อหรือภาษาที่ทำให้เราคิดว่า โอ้โหโตไว โอ้โหมันสำปะหลังหัวโต ประมาณนั้น แต่ให้ดูว่า สูตรอะไร NPK สามตัวนี้มันทำให้มีผลต่อการเติบโตของพืช พูดกันง่ายๆ คือ

ตัวหน้า ทำให้ต้นโตไว้

ตัวกลาง ทำให้หัวและผล โตไว้

ตัวหลัง ทำให้ใบเยอะ

ทีนี้ หาท่านต้องการจะเร่งตรงไหน หรือ พืชชนิดนั้นต้องการปุ๋ยตัวไหนเยอะ ก็จะต้องซื้อสูตรที่ตัวนั้นมันเยอะเป็นดีกว่า 

อย่าติดที่ชื่อ เพราะนั้นเป็นเพียงเครื่องหมายการค้า และการใช้คำพูดเพื่อโน้มน้าวให้คุณซื้อเท่านั้นเอง

กรณีเกษตรสวนยางพาราที่ลงมีกรีดแล้วละ จะใช้สูตรแบบไหน?

ทางด้านวิชาการเขาบอกไว้ว่า ให้ใช้ที่ ตัวหน้าและตัวหลังสูง จึงมีสูตรมากมายให้เห็นเช่น

     19-8-19

     20-9-20

     20-8-20
     29-5-18
     30-5-18

เป็นต้น สูตรเหล่านี้เป็นการตอบสนองต่อความาต้องการของผู้ซื้อ ถ้าเราไปซื้อ ราคาจะแตกต่างกัน เพราะแม่ปุ๋ยแต่ละตัวจะมีราคาที่แตกต่างกัน ราคาจึงแตกต่างกัน อย่างสวนผมอยู่ลำปาง ไม่สามารถหาซื้อปุ๋ย สองสูตรสุดท้ายนั้นได้ ผมเลยใช้แม่ปุ๋ยมีผสมเอง ซึ่งก็ทำให้ผมได้ปุ๋ยตามสูตรที่ต้องการ สนใจลองเข้าไปอ่านเรื่อง ปุ๋ยยางพารา <<<<---- คลิกที่ลิงค์ ผมได้พูดถึงเรื่องปุ๋ยไว้เยอะเหมือนกัน

ก่อนจบขอฝากภาษิตภาษาอังกฤษคำหนึ่งคือ NO BEES NO HONEY NO WORK NO MONEY แปลเป็นไทยได้ง่ายๆว่า "ไม่มีผึ้งก็ไม่มีน้ำผึ้ง ไม่ทำงานก็ไม่มีเงิน" ซึ่งเป็นข้อคิดสำหรับคนทำงาน เพื่อจะได้มีกำลังใจในการทำงานต่อไป

ดินที่ดีมีใส้เดือนสะเทือนทุ่ง
อาป้าลุงหลงไหลไม่รู้สิ้น
หารู้ไม่สิ่งที่ซื้อมันคือดิน
แปรเป็นสินทรัพย์ขายให้คนจน

ทีนี้เรื่องของ ดินดีต้องมีไส้เดือน จึงเป็นดินที่คุณต้องนำมาคิดแล้วว่า 1. ไส้เดือนชอบอยู่ที่แบบไหน 2. ความชื้นในดินเป็นอย่างไร 3.สภาพแวดล้อมภายในสวนเป็นอย่างไร ทั้งนี้เพราะว่าไส้เดือนเองก็มีศัตรูตามธรรมชาติมากเช่นกัน แต่มีข้อดีที่ ตัวมันเองก็ขยายพันธุ์ได้มากและไว จึงพอจะเฉลี่ยกันไป ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อดินราคากระสอบละเป็น สามสี่ร้อยบาทมารถมสวนหรอกครับ