โครงการทฤษฎีใหม่ ตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

โครงการทฤษฎีใหม่ ตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


โครงการทฤษฎีใหม่ ตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นโครงการที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งนับเป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับประเทศเกษตรกรรม อย่างไทยเราเป็นอย่างยิ่งนำครับ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความมั่นคงทางชีวิตได้เป็นอย่างดี

การน้อมนำ พระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่ทำนา ที่เป็นที่นิยมกันมาหลายปีนี้ก็คือ การทำการเกษตรแบบ "หนึ่งไร่ ไม่ยาก ไม่จน" โดยใช้แนวคิดพอเพียง เป็นหลักในการดำเนินการ
เศรษฐกิจพอเพียง

ปลูกพืชผสมผสาน

สิ่งหนึ่งที่เกษตรกร อาจจะยังไม่สามารถทำให้เป็นไปดังที่คาดหมาย ก็มีหลายประการ เช่น การปลูกพืชเชิงเดี่ยวมาก่อน ทำให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ หรือ  ขาดความสมดุลย์ ต้องมีการศึกษาเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในแนวทางการปฏิบัติตามหลักของเกษตรทฤษฎีใหม่ การน้อมนำ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้ เพื่อเป็นการเข้าใจแก่นแท้ และเข้าใจสภาพที่เป็นอยู่ เพราะจะได้รู้ว่า ในความเป็นจริงแล้ว สภาพแวดล้อมของตัวเองเป็นอย่างไร ดินต้องการอะไร ตลาดต้องการอะไร และที่แน่ๆ คือ ต้องเริ่มจากการที่ทำเพื่อเลี้ยงตัวเองให้อยู่ได้ โดยไม่พึ่งพาคนอื่นเสียก่อน

เกษตรกร อาจจะเริ่มจาก การจัดแบ่งพื้นที่ของตัวเอง ออกเป็นส่วนๆ ทั้งนี้ เพื่อจะได้ทำการปลูกพืชแบบผสมผสาน และที่สำคัญคือ แหล่งน้ำ หากสามารถ มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ หรือ แหล่งน้ำเป็นของตัวเองได้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก จะเห็นได้ว่า ช่วงระยะปีนี้ ประเทศไทย ประสพภัยแล้งอย่างมาก ผู้ที่มีแหล่งน้ำเป็นของตัวเองจึงไม่เดือดร้อนเท่าไร 

เกษตรกรเรา ควรคิดใหม่ได้แล้วครับว่า เราจะไม่รอแค่น้ำจากธรรมชาติ หรือ กรมชลประทานอีกแล้ว ใครมีที่กว้างก็ขาดบ่อไว้ใช้เอง หากที่ไหนแล้งหนัก ก็ลึกสัก 6 เมตร เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ อย่างพอเพียง เลี้ยงปลา เลี้ยงกบได้อีกด้วย

ตัวอย่างจากผู้ประสบความสำเร็จท่านหนึ่ง จากการดำเนินชีวิต ตาม โครงการทฤษฎีใหม่ ตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ นายวงศ์เดช ศรีสวัสดิ์ มีที่อยู่ 7 ไร่ เขาได้ขุดบ่อเพื่อเก็บกักน้ำไว้ถึง 4 บ่อ โดยภายในบ่อมีการเลี้ยงปลา เลี้ยงแมงดานา ด้วย จะเห็นได้ว่า เป็นทั้งที่เลี้ยงสัตว์น้ำ และเป็นที่เก็บน้ำไว้ใช้ สำหรับรด พืชผักและทำนา จำนวน 2 ไร่ 

เขาได้แบ่ง ที่อีกส่วนหนึ่ง เป็นที่สำหรับ ปลูกพืชแบบผสมผสาน หลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวในนาเสร็จแล้ว ก็จะปรับเป็น พื้นที่สำหรับ ปลูกพืชไร่ ที่คันนา ส่วนบริเวณรอบสระน้ำ ก็ปลูก มะละกอ กล้วย มะม่วง มะพร้าว เพกา เสวรส และไม้ไผ่รวก ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ใช้ทำค้าง ผักสวนครัว นอกจากนั้น ยังปลูก พริก ตะไคร้ ข่า ขิง พื้นที่บางส่วนก็ใช้ สำหรับการเลี้ยงสัตว์ต่างๆ เช่น เลี้ยงไก่ไข่ หมู และหมูหลุม เป็นต้น ทำให้เขามีรายได้เข้าครอบครัว วันละอย่างน้ำ 1,000 บาท เลยทีเดียว

ข้อดีของการทำ การเกษตรแบบผสมผสาน จะทำให้เกษตรกร สามารถมีรายได้เพื่อเลี้ยงชีพตัวเอง ทั้งปี เพราะหน้านา ก็ทำนา ปลูกผัก หน้าอื่นก็มีผักสวนครัวต่างๆ หน้าแล้งก็ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำเพราะมีบ่อน้ำไว้ในพื้นที่อยู่แล้ว จึงทำให้ ประหยัดค่าใช้จ่าย ปลูกกินเอง เหลือก็ขายได้ตลอด ไม่ต้องรออาชีพที่ทำเพียงชนิดเดียวอีกต่อไป

จะเห็นได้ว่า โครงการทฤษฎีใหม่ ตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นโครงการที่ทำให้ชีวิตของราษฎร์ มั่นคง และมีความสุขในครอบครัว เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้เกิดความคุ้มกันที่ดีต่อสถาบันครอบครัว และสถาบันชาติได้เป็นอย่างดี

0 คน ให้ความคิดเห็นเรื่อง "โครงการทฤษฎีใหม่ ตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

แสดงความคิดเห็น