การขายยางที่ สหกรณ์กองทุนสวนยาง

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2556 นี้ ผมได้ไปดูการขายยางที่ สหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดลำปาง จำกัด เนื่องจากต้องการไปดูให้เห็นกับตาว่า การซื้อขายเป็นอย่างไร และเราจะได้ไปสัมผัสกับเกษตรกรณ์ผู้ทำสวนตัวจริง ที่นำมาขายให้สหกรณ์ จะได้ถามไถ่สิ่งที่เราต้องการรู้ไปด้วย เนื่องจากเคยได้ยินคนหลายๆ คนพูดให้ฟังว่า เขาละเอียดมาก อย่างนั้นอย่างนี้ จนเรากลัวที่จะเอาไปขายที่นั่นเลยน่ะ

ในวันที่ผมไปนี้ เป็นวันไม่ปกติ ครับ เพราะปกติการเปิดซื้อยางของสหกรณ์นี้เขาจะเป็นวันอื่น แต่ครั้ก่อนเขาไม่เปิดรับซื้อ จึงเลื่อนมาเป็นวันนี้ ทางสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดลำปาง จำกัด มีสถานที่เปิดรับซื้ออยู่ 2 แห่งคือ

1. อ.ห้างฉัตร์ เปิดรับซื้อ ทุกวันพุธ สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน

2. อ.วังเหนือ เปิดรับซื้อ ทุกวันอังคาร สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน

ยางพารา ที่เขาจะรับซื้อต้องเป็นยางแห้งนะครับ ถ้าเปียกข้างใน หรือ มีเศษไม้อะไรอยู่ข้างในก็อดเลย ต้องบรรทุกกลับบ้านแน่นอน ...

เอาล่ะ ขอเล่าบรรยากาศโดยทั่วไปก่อนล่ะกัน

ไม่มีอะไรมากครับ ต่างคนก็ต่างบรรทุกของตัวเองไป จะเห็นมีคนเตรียมชั่ง ขี้ยาง ยางแผ่น อยู่สองจุด และมีคนหนึ่ง ถือมีเดินไปเดินมา พูดเสียงดังๆ อยู่ ไม่ต้องกลับครับ คนนี้ ทุกคนต้องรู้จัก เราเรียกเขาว่า อาจารย์วันชัย มีที่ถืออยู่นั้น เอาไว้เช็คดูขี้ยาง เขาจะเอามีปาด/ผ่า ก้อนขี้ยาง เพื่อดูข้างใน และเป็นกันเองดีมากครับ ปากก็พร่ำไปเรื่อยๆ และ ทำให้บรรยากาศดี ไม่ตึงเครียดอะไร 

สิ่งที่ต้องทำ ของคนขายยาง ให้กับ สหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดลำปาง จำกัด คือ

1.ไปแต่เช้า เพื่อเอาคิว ถ้าคนไม่เยอะก็ไม่เป็นไร

2.นำบัตรสมาชิกสหกรณ์และหมายเลขบัญชีธนาคารธกส.ไปด้วย

3.นำยาง ที่จะขายไปด้วย (อิอิ มันแน่นอนอยู่แล้วเนอะ) 

4.ให้ไปช่วงเช้า เพราะเขาจะรับซื้อช่วง 08.00 - 12.00 น. เท่านั้น เดือนละครั้งด้วย

5.ถ้าไม่แน่ใจว่า ยางของตัวเองจะแห้งพอที่จะขายหรือไม่ ก็เรียก อ.วันชัย (จูงแขนไปก็ได้) ให้ไปดู (ยาง) ของตัวเองที่รถก่อนที่จะเอาลง

6.ทีนี้ก็เข้าไปขายกันตามคิวนั่นแหละ ไม่ยาก ต้องดูจำนวนกิโลที่เขาขานให้เราฟังด้วยว่าตรงกันไหม จะได้ไม่โกงกัน

7.เมื่อชั่งแล้วเขาก็จะมีหลักฐานให้ไปแจ้ง จนท.สาวๆ ที่นั่งที่โต๊ะรอ 

นี่เป็นขั้นตอนหรือวิธีปฏิบัติ ในการขายยางให้สหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดลำปาง จำกัด

ผมก็ไปยืนหาเหล่สาวๆ ไปงั้นแหละ เห็นมีคนสวยอยู่ 2 คน ดูแล้ว มีเจ้าของทั้งนั้น อย่าคิดมาก! แค่เล่าให้ฟัง

เอาล่ะ ไฮไลท์ ครับ ยางที่จะขายให้ได้ราคาดี ที่สหกรณ์ฯ ควรเป็นอย่างไร

ยางที่จะขายได้ราคาดี จะต้องมีคุณสมบัติหลักๆ ดังนี้

1.แห้ง เก็บไว้สัก 20 วัน (ผึ่งลม) และให้โดนแดด สัก 1-2 แดด (ยิ่งดำยิ่งดี เพราะมีดีกรีว่า "เก็บนาน")

2.ข้างใน ก้อนขี้ยาง ไม่มีเศษไม้ หรือ หิน หรือ สิ่งเจือปน

แค่นี้ก็เอาไปขายได้ราคาแล้วครับ บางคนอาจจะห่วงว่า 

"(ยาง)ของผม/ดิฉัน (อิอิ) มันขึ้นราจนดำแล้วก็แห้งหม่นๆ เหมือนฝุ่น เช็ดทำความสะอาดก่อนไหม ต้องล้างก่อนไหม?"

คำตอบคือ ไม่ต้องครับ สกปรกแบบนี้ "มีราคาดี" เหมือนที่ผมว่า ยิ่งดำยิ่งดีนั่นแหละ

ตอนที่ผมยืนดูอยู่นั้น มีเจ้าหนึ่ง ก้อนยางแห้งเหลืองสวยเชียว 

แต่พอ อ.วันชัย เห็นเข้า ก็รีบพูดออกมาว่า "เดี๋ยวๆๆๆ ขอผมดูก่อน" 

แล้วก็ผ่าออกดู และบอกว่า "ยังไม่แห้งปกติแบบนี้เราไม่ซื้อนะครับ ขอตัดออก 10 เปอร์เซ็นต์นะ" 

(ร้อยกิโลกรัม จะโดนตัดไป 10 เหลือ 90 กก.ละเอียดซะ!!!)

พอผมเข้าไปพูดคุย ก็รู้ว่า เขาเองก็เป็นครูยางด้วยกัน แต่บังเอิญว่า ถนอมยางเกินไป แทนที่จะได้รับคำชม แต่กลับโดนตัดราคา ส่วนตัวแล้วน่าเห็นใจเหมือนกัน เพราะจริงแล้วมันแห้งละครับ แค่สีมันเหมือนไม่แห้งเท่านั้นเอง

จึงได้รู้กรรมวิธีว่า

ก้อนขี้ยาง ที่เป็นสีเหลืองสวยๆ นั้น เป็นส่วนที่เขาทำที่ตากไว้ในร่ม ไม่ให้โดนแดดโดนฝน จึงเหลืองสวย แต่...โดนตัดราคา

อีกส่วนหนึ่งของเขา เป็นก้อนขี้ยาง ที่มีสีดำสีหม่น เขาบอกว่า นี่ก็ได้รับการเช็ดขัดสีฉวีวรรณ มาแล้วเช่นกัน อันนี้ผ่าน.. แต่ก็ดันโดนจัดอยู่ส่วนโดนตัดอยู่ (เอาเปรียบคนขายเหมือนกันนะ) เขาจึงบอกว่า 

ทีหลังไม่ถนอมมันล่ะ การจะทำให้มันดำต้องทำดังนี้

1.ตากบนพื้นหรือซีเมนต์ก็ได้ โดยมีผ้าใบรองไว้หน่อย ตากทิ้งไว้อย่างนั้นแหละ

2.ถ้าราขึ้นก็ปล่อยมันขึ้น

3.ไม่ต้องเช็ด ปล่อยมัน สิ่งที่ต้องทำก็แค่เก็บใส่กระสอบแล้วน้ำมาขาย แค่นั้นพอ

นี่เป็นสิ่งที่ผมได้เห็นกับตามาด้วยตัวเอง ฉะนั้น สรุปได้ว่า การขายนั้นไม่ยุ่งยาก ขอสองอย่างพอคือ แห้งและไม่มีสิ่งเจือปน แค่นี้เอง ส่วนราคานะเหรอ ดีกว่าพ่อค้าคนกลางมาก แต่ใครที่ละเอียดหน่อย ก็ให้ทดลองก่อนก็ได้นะ ว่า ขายยางดิบ กับแห้งแบบนี้ น้ำหนักจะหายไปสักเท่าไร อ่ะ ผมบอกราคาได้ดังนี้

-สหกรณ์ ราคายางวันนี้ 46.50 บาท (แห้ง)

-พ่อค้าคนกลาง ราคายางวันนี้ 35 บาท (พัก 1 คืน)

ดังนั้น จะขายแบบไหนก็ควรทดสอบทดลองก่อนนะครับ จะได้ราคาดีและไม่เสียเที่ยว เนื่องจากการขายให้พ่อค้าง่ายดี แต่ราคาแล้วแต่เขาจะอ้าง ส่วนมากจะได้ยินว่า "สองสามวันก่อน ราคาขึ้นมาทีละ เพิ่งลดเมื่อวานนี่เอง" หรือไม่ก็ "ช่วงกลางสัปดาห์ราคายางสูงครับ แต่ช่วงสุดสัปดาห์นี้ราคาตก" ยังงี้แหละครับ สำหรับการขายให้ สหกรณ์ฯ นั้นราคาแพง แต่เราก็ต้องบรรทุกไปไกล เสียค่าน้ำมันและเวลามากขึ้น ให้นำไปพิจารณากันเอาเองนะครับ

เอาภาพบรรยายกาศมาฝากด้วย