การทำสวนยางแบบละเอียด 7 : พันธุ์ยางพารา ที่แนะนำให้ปลูก
พันธุ์ยางพารา ที่แนะนำให้ปลูก
การปลูกยางพารา
นั้นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง ก็คือ พันธุ์ยางพารา เนื่องจาก
หากมีการคัดเลือกพันธุ์ที่ดีแหละเหมาะสมแล้ว ก็จะทำให้ได้ผลผลิตที่ดี
และคุ้มค่าต่อการลงทุนของ เกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่ง สถานบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร
ได้ให้รายละเอียดไว้ ดังนี้
1. การเลือกพันธุ์ยางพารา ควรเป็นพันธุ์ที่
มีคุณสมบัติเหล่านี้ประกอบด้วยคือ
- ให้ผลผลิตสูง
- การเจริญเติบโตดี
- มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่
-
ต้านทานโรคในพื้นที่ที่มีปัญหารุนแรงดี
2. พันธุ์ยางพาราที่แนะนำให้ปลูก ตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร
พ.ศ. 2546 ได้จัดไว้เป็นกลุ่ม มี 3 กลุ่ม
ขอแนะนำพันธุ์ยางชั้น 1 ในแต่ละกลุ่มดังนี้
![]() |
ภาพพันธุ์ต้นยางพารา |
กลุ่มที่ 1
พันธุ์ยางผลผลิตน้ำยางสูงได้แก่พันธุ์ สถาบันวิจัยยาง 251, สถาบันวิจัยยาง 226, BPM 24, RRIM 600
พันธุ์สถาบันวิจัยยาง 251 (RRIT 251)
- ผลผลิตเนื้อยางแห้งเฉลี่ย 10 ปี 457 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี ส่วนยางใหม่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 317 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี
- การเจริญเติบโตปานกลาง เปลือกเดิมและเปลือกงอกใหม่หนาปานกลาง ดีทั้งในระยะก่อนเปิดกรีดและระหว่างกรีด
การผลัดใบค่อนข้างช้าและผลัดใบพร้อมกัน สีของน้ำยางและยาแผ่นดิบมีสีขาว
- ควรใช้ระบบกรีดครึ่งลำต้น วันเว้นวัน
- ต้านทานโรคเส้นดำดีต้านทานโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอบโทรา โรคราแป้ง โรคใบจุดนูน
และโรคราสีชมพูปานกลาง มีต้นเปลือกแห้งจำนวนน้อย ตานทานลมปานกลาง
- ไม่แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้น และพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง
พันธุ์BPM 24 - ผลผลิตเฉลี่ย 312 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี ผลผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อใช้สารเคมีเร่งน้ำยา
- การเจริญเติบโตปานกลาง เปลือกเดิมหนามาก เปลือกงอกใหม่หนาปานกลาง
- ควรใช้ระบบกรีดครึ่งลำต้น วันเว้นวัน หากใช้ระบบกรีดถี่ จะทำให้ต้นยางแสดงอาการเปลือกแห้งมากขึ้น
- ต้านทานโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทราดีมาก ต้านทานโรคเส้นดำดี ต้านทานโรคราแป้ง
โรคใบจุดนูน และโรคราสีชมพูปานกลาง มีต้นเปลือกแห้งจำนวนปานกลางต้านทานลมปานกลาง
- ปลูกได้ในพื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้น พื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง
และพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
ข้อสังเกต :
ในระยะยางอ่อนแตกกิ่งเล็ก ๆ จำนวนมาก ลำต้นและกิ่งมีรอยแผลน้ำยางไหล
ซึ่งจะหายไปในระยะต่อมา
พันธุ์ สถาบันวิจัยยาง 226 (RRIT 226)
- ผลผลิต 8 ปี กรีดเฉลี่ย 346
กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี
- การเจริญเติบโตระยะก่อนเปิดกรีดและระยะระหว่างกรีดปานกลาง ความสม่ำเสมอของขนาดลำต้นทั้งแปลงปานกลาง
- ควรใช้ระรบกรีดครึ่งลำต้นวันเว้นวัน
- ต้านทานโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทราและโรคเส้นดำดี ต้านทานโรคใบจุดนูนและโรคราสีชมพูปานกลาง
และอ่อนแอต่อโรคราแป้ง
- ปลูกได้ในพื้นที่ลาดชันและพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ไม่แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ที่มีหน้าที่ดินตื้นและมีระดับน้ำใต้ดินสูง
พันธุ์ RRIM 600
- ผลผลิตเฉลี่ย 289
กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี ผลผลิตเพิ่มขึ้นปานกลางเมื่อใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง
ผลผลิตลดลงมากในช่วงผลัดใบในพื้นที่แห้งแล้ง
- การเจริญเติบโตปานกลาง เปลือกเดิมบาง และเปลือกงอกใหม่หนาปานกลาง
- ควรใช้ระบบกรีดครึ่งลำต้น วันเว้นวัน
- ต้านทานโรคราแป้งและโรคใบจุดนูนปานกลางอ่อนแอต่อโรคราสีชมพู อ่อนแอมากต่อโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื่อไฟทอปโทราและโรคเส้นดำ
มีต้นเปลือกแห้งจำนวนน้อย ต้านทานลมปานกลาง
- ปลูกได้ในพื้นที่ลาดชันไม่แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ที่มีหน้าดินตื้น และพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง
- ข้อสังเกต : ไม่ควรปลูกในพื้นที่ที่มีโรคใบร่วงไฟทอปโทราและโรคเส้นดำระบาดอย่างรุนแรง
กลุ่มที่ 2
พันธุ์ยางผลผลิตน้ำยางและเนื้อไม้สูงได้แก่ พันธุ์ PB 235,
PB 255, PB 260, RRIC 110
พันธุ์ PB
235
-
ระยะก่อนเปิดกรีดเจริญเติบโตดีมาก เปิดกรีดได้เร็ว ความสม่ำเสมอของขนาดลำต้นทั้งแปลงดี
ทำให้มีจำนวนต้นเปิดกรีดมาก ระยะระหว่างกรีดเจริญเติบโตปานกลาง
-
ระยะยางอ่อนแตกกิ่งเร็ว กิ่งมีขาดเล็กจำนวนมาก และทยอยทิ้งกิ่งด้านล่าง
เมื่ออายุเพิ่มขึ้นเหลือกิ่งขนาดกลาง 4 – 5 กิ่งในระดับสูง
มีพุ่มใบค่อนข้างบาง ทรงพุ่มมีขนาดใหญ่เป็นรูปกลม
-
เริ่มผลัดใบช้าและทยอยผลัดใบ
-
เปลือกเดิมหนาปานกลาง เปลือกงอกใหม่บาง
-
ระบบกรีดครึ่งลำต้น วันเว้นวัน
-
ผลผลิตน้ำยาง 10 ปี กรีดเฉลี่ย 330 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี สูงกว่าพันธุ์ RRIM 60 ที่ปลูกในแปลงทดลองเดียวกันร้อยละ
37 ผลผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อใช้สารมีเร่งน้ำยาง
ในช่วงผลัดใบผลผลิตลดลงปานกลาง
-
ผลผลิตเนื้อไม้ในช่วงอายุ 6, 15 และ 20
ปี ให้ผลผลิตเนื้อไม่ส่วนลำต้น 0.10, 0.30 และ
0.41 ลูกบาศก์เมตรต่อต้น คิดเป็น 6.75, 22.34 และ 28.09 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ ตามลำดับ
-
ต้านทานโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทราปานกลาง อ่อนแอมากต่อโรคราแป้งและโรคใบจุดนูน
-
ต้านทานโรคเส้นดำปานกลาง และต้านทานดีต่อโรคราสีชมพู
-
มีจำนวนต้นยางแสดงอาการเปลือกแห้งค่อนข้างมาก
-
ต้านทานลมปานกลาง
-
ไม่แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้น และพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง
ข้อสังเกต :
ยางพันธุ์นี้มีการเจริญเติบโตดีมาก เปิดกรีดได้เร็วเนื่องจากทรงพุ่มขนาดใหญ่ไม่ควรปลูกระหว่างต้นน้อยกว่า
3 เมตร
ข้อจำกัด :
ไม่แนะนำการกรีดถี่ที่มีวันกรีดติดต่อกันเพราะต้นยางจะเกิดอาการเปลือกแห้งมาก
พันธุ์ PB
255
-
ระยะก่อนเปิดกรีดเจริญเติบโตดี
ความสม่ำเสมอของขนาดลำต้นทั้งแปลงปานกลาง ระยะระหว่างกรีดเจริญเติบโตปานกลาง
-
แตกกิ่งขนาดเล็กจำนวนมากพุ่มใบทึบ ทรงพุ่มมีขนาดปานกลางเป็นรูปกลม
-
เริ่มผลัดใบค่อนข้างช้า
-
เปลือกเดิมและเปลือกงอกใหม่หนา
-
ควรใช้ระบบกรีดครึ่งลำต้นวันเว้นวัน
-
ผลผลิตน้ำยาง 10 ปีกรีดเฉลี่ย 318 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี สูงกว่าพันธุ์ RRIM 600 ที่ปลูกในแปลงทดลองเดียวกันร้อยละ
46 ผลผลิต เพิ่มขึ้นปานกลางเมื่อใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง
ในช่วงผลัดใบผลผลิตลดลงปานกลาง
-
ผลผลิตเนื้อไม้ในช่วงอายุ 6, 15 และ 20
ปี ให้ผลผลิตเนื้อไม้ส่วนลำต้น 0.10, 0.28 และ
0.39 ลูกบาศก์เมตรต่อต้น คิดเป็น 6.26 , 21.57 และ 27.24 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ ตามลำดับ
-
อ่อนแอต่อโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทรา
โรคใบจุดนูนและโรคราสีชมพู ต้านทานปานกลางต่อโรคราแป้งและโรคเส้นดำ
-
มีจำนวนต้นยางแสดงอาการเปลือกแห้งปานกลาง
-
ต้านทานลมดี
-
ปลูกได้ในพื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้นและพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง
- ข้อจำกัด : ไม่แนะนำการกรีดถี่ที่มีวันกรีดติดต่อกัน
เพราะต้นยางจะเกิดอาการเปลือกแห้งมาก
พันธุ์ PB
260
-
ระยะก่อนเปิดกรีดเจริญเติบโตดี ความสม่ำเสมอของขนาดลำต้นทั้งแปลงดี ทำให้มีจำนวนต้นเปิดกรีดมาก
ระยะหว่างกรีดเจริญเติบโตปานกลาง
-
แตกกิ่งน้อยกิ่งมีขนาดปานกลางและแต่ละกิ่งจะแตกกิ่งเล็กๆ
จำนวนมากเป็นชั้นๆ พุ่มใบทึบในช่วงอายุน้อยทรงพุ่มมีขนาดปานกลางเป็นรูปกลม
-
เริ่มผลัดใบช้า
-
เปลือกเดิมหนาปานกลาง เปลือกงอกใหม่บาง
-
ควรใช้ระบบกรีดครึ่งลำต้น วันเว้นวัน
-
ผลผลิตน้ำยาง 10 ปีกรีดเฉลี่ย 322 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี สูงกว่าพันธุ์ RRIM 600 ที่ปลูกในแปลงทดลองเดียวกันร้อยละ
32 ผลผลิตเพิ่มขึ้นปานกลาง เมื่อใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง
ในช่วงผลผัดใบผลผลิตลดลงเล็กน้อย
-
ผลผลติเนื้อไม้ ในช่วงอายุ 6, 15 และ 20
ปี ให้ผลผลิตเนื้อไม่ส่วนลำต้น 0.10, 0.26 และ
0.36 ลูกบาศก์เมตรต่อต้น คิเป็น 6.85, 19.90 และ 25.53 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ ตามลำดับ
-
ต้านทานปานกลางต่อโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทรา โรคราแป้งโรคใบจุดนูนและโรคเส้นดำ
ต้านทานดีต่อโรคราสีชมพู
-
มีจำนวนต้นยางแสดงอาการเปลือกแห้งค่อนข้างมาก
-
ต้านทานลมดี
-
ปลูกได้ในพื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้น และพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง
RRIC 110
-
ระยะก่อนเปิดกรีดเจริญเติบโตดีมาก เปิดกรีดได้เร็ว และความสม่ำเสมอของขนาดลำต้นทั้งแปลงดี
ทำให้มีจำนวนต้นเปิดกรีดมาก ระยะระหว่าง กรีดเจริญเติบโตปานกลาง
-
กิ่งมีขนาดใหญ่แตกกิ่งในระดับสูงเนื่องจากการทิ้งกิ่งด้านล่างเมื่อยางมีอายุมากขึ้นทรงพุ่มมีขนาดใหญ่เป็นรูปพัด
-
เริ่มผลัดใบช้า
-
เปลือกเดิมและเปลือกงอกใหม่บาง
-
ควรใช้ระบบกรีดครึ่งลำต้น วันเว้นวัน
-
ผลผลิตน้ำยาง 10 ปี กรีดเฉลี่ย 324 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี สูงกว่าพันธุ์ RRIM 600 ที่ปลูกในแปลงทดลองเดียวกันร้อยละ
27 ผลผลิตเพิ่มขึ้นปานกลาง เมื่อใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง
ในช่วงผลัดใบผลผลิตลดลงเล็กน้อย
-
ผลผลิตเนื้อไม้ ในช่วงอายุ 6,15 และ 20
ปี ให้ผลผลิตเนื้อไม้ส่วนลำต้น 0.10, 0.29 และ
0.40 ลูกบาศก์เมตรต่อต้น คิดเป็น 6.44, 21.86 และ 27.55 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ ตามลำดับ
-
ต้านทานโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทราดี และต้านทานโรคราแป้ง
โรคใบจุดนูน โรคเส้นดำ และโรคราสีชมพูปานกลาง
-
มีจำนวนต้นยางแสดงอาการเปลือกแห้งปานกลาง
-
ต้านทานลมปานกลาง
-
ไม่แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ลาดชันพื้นที่ที่มีหน้าดินตื้น และพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง
- ข้อสังเกต : น้ำยางเมื่อนำไปทำเป็นยางแผ่นดิบ
จะมีสีค่อนข้างคล้ำ
กลุ่มที่ 3 :
พันธุ์ยางผลผลิตเนื้อไม้สูง ได้แก่พันธุ์ ฉะเชิงเทรา 50,
AVPOS 2037, BPM 1
พันธุ์ ฉะเชิงเทรา 50
(RRIT 402)
- การเจริญเติบโตของลำต้น เจริญเติบโตดีมาก
ต้นยางอายุ 6 ปี มีขนาดเส้น รอบวงลำต้น 51.6 เซนติเมตร
- การแตกกิ่งและทรงพุ่ม ทรงพุ่มค่อนข้างใหญ่
ลักษณะการแตกกิ่งสมดุล การแตกกิ่งอยู่ในระดับสูง และรูปทรงลำต้นตรง
- การผลัดใบ เริ่มผลัดใบเร็ว
- ผลผลิตเนื้อไม้ ต้นยางอายุ 6 ปี ให้ผลผลิตเนื้อไม่ส่วนลำต้นตรง
- การผลัดใบ เริ่มผลัดใบเร็ว
- ผลผลิตเนื้อไม้ ต้นยางอายุ 6 ปี ให้ผลผลิตเนื้อไม้ส่วนลำต้น 0.11 ลูกบาศก์เมตรต่อต้น
คิดเป็น 7.76 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่
- ต้านทานโรคใบเร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทราปานกลางต้านทานโรคราแป้งปานกลางและต้านทานดีต่อโรคใบจุดนูน
- การเจริญเติบโตดีมาก ต้นยางอายุ 6, 15 และ 20 ปี มีขนาดเส้นรอบวงลำต้น 50.3, 78.5 และ 87.3 เซนติเมตร ตามลำดับ
-
การแตกกิ่งและทรงพุ่มในช่วงยางอายุน้อยมีกิ่งขนาดเล็กจำนวนมากแตกกิ่งสมดุล
พุ่มใบทึบ ทิ้งกิ่งเล็กค่อนข้างเร็วเมื่ออายุมากเหลือกิ่งขนาดใหญ่ 1-2 กิ่งในระดับสูงทำให้ทรงพุ่มโปร่งรูปทรงลำต้นตรง ลักษณะกลม
-
การผลัดใบ เริ่มผลัดใบเร็ว
-
ผลผลิตเนื้อไม้ ต้นยางอายุ 6,15 และ 20
ปี ให้ผลผลิตเนื้อไม้ส่วนลำต้น 03.10, 0.31 และ
0.43 ลูกบาศก์เมตรต่อต้น คิดเป็น 7.22, 23.07 และ 28.90 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ ตามลำดับ
-
อ่อนแอต่อโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทราต้านทานปานกลางต่อโรคราแป้งและต้านทานดีต่อโรคใบจุดนูนและโรคราสีชมพู
-
ต้านทานลมดี
-
ไม่แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้นและพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง
BPM 1
-
การเจริญโตดีมาก ต้นยางอายุ 6, 15 และ 20
ปี มีขนาดเส้นรอบวงลำต้น 50.1,78.1 และ 86.9
เซนติเมตรตามลำดับ
-
ในช่วงอายุน้อยแตกกิ่งต่ำมีกิ่งขนาดเล็กจำนวนมากการแตกกิ่งสมดุลทรงพุ่มรูปกรวย
มีขนาดปานกลาง ทรงพุ่มโปร่งอยู่ในระดับสูง
-
การผลัดใบ เริ่มผลัดใบเร็ว
-
ผลผลิตเนื้อไม้ ต้นยางอายุ 6, 15 และ 20
ให้ผลผลิตเนื้อไม้ส่วนลำต้น 0.10, 0.31 และ 0.43
ลูกบาศก์เมตรต่อต้น คิดเป็น 7.12, 22.91 และ 28.73
ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ ตามลำดับ
-
ต้านทานดีต่อโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทรา
และต้านทานปานกลางต่อโรคราแป้ง โรคใบจุดนูนและโรคราสีชมพู
-
ต้านทานลมดี
-
ปลูกได้พื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้นและพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง
.......................
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
การทำสวนยางแบบละเอียด 1 : ยางพาราไทย
การทำสวนยางแบบละเอียด 2 : ประวัติยางพาราเข้าสู่ประเทศไทย
การทำสวนยางแบบละเอียด 3 : การเตรียมพื้นที่ปลูกยางพารา
การทำสวนยางแบบละเอียด 4 : สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการปลูกยาง
การทำสวนยางแบบละเอียด 5 : พื้นที่ และระยะปลูก ยางพารา เมื่อเตรียมกล้ายางแล้ว
การทำสวนยางแบบละเอียด 6 : ชนิดของต้นพันธุ์ยาง
การทำสวนยางแบบละเอียด 7 : พันธุ์ยางพารา ที่แนะนำให้ปลูก
การทำสวนยางแบบละเอียด 8 : การเสริมรายได้ในสวนยาง
การทำสวนยางแบบละเอียด 9 : การกำจัดวัชพืช
การทำสวนยางแบบละเอียด 10: การใส่ปุ๋ยยางพารา
การทำสวนยางแบบละเอียด 11: วิธีการกรีดยาง
การทำสวนยางแบบละเอียด 12: โรคและแมลงศัตรูยางพารา และวิธีป้องกันและรักษา
การทำสวนยางแบบละเอียด 13: ผลิตผลและการแปรรูปยาง
ดาวน์โหลดความรู้เกี่ยวกับพันธุ์ยางพาราฟรีที่ http://www.rubbercenter.org/files/rubber-tree.pdf
0 คน ให้ความคิดเห็นเรื่อง "การทำสวนยางแบบละเอียด 7 : พันธุ์ยางพารา ที่แนะนำให้ปลูก"
แสดงความคิดเห็น