ช่วงเวลาแห่งการปิดหน้ายางพารา

ช่วงเวลาแห่งการปิดหน้ายางพารา

การปิดหน้ายาง ก็คือ การหยุดกรีดยาง สำหรับภาคอื่นๆ ส่วนมากแล้วก็จะมีการกรีดยางตลอด เว้นแต่ในแถบภาคเหนือ ซึ่งหลายแห่งสภาพของต้นยางไม่อำนวยต่อการ กรีดยางพารา เท่าที่ควร เนื่องจาก ช่วงท้ายของฤดูหนาวและเข้าสู่ฤดูร้อนนั้น เป็นช่วงเวลาที่ต้นยางมีการผลัดใบ จึงต้องหยุดการกรีดยางไว้ก่อน

ใบยางพารา

ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นอย่างไร 

ช่วงเวลาปลายฤดูหนาวและเข้าสู่ฤดูร้อน คือ ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ใบยางพารา จะเริ่มมีสีเหลือง พร้อมที่จะหล่น ซึ่งคนที่เคยเห็นมาแล้ว ก็ไม่แปลกอะไร แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นละก็ ตกใจแน่นอน ผมเป็นคนหนึ่งในนั้น (แฮ่ๆๆ) สาเหตุเพราะว่า ผมไม่เคยเห็นมาก่อนว่า เมื่อต้นยางผลัดใบนั้น มันจะหล่นแทบจะหมดต้น ก็มีบ้างบางส่วนที่หล่อนไปบางส่วน แล้วค่อยๆ โป่งยอดใหม่ พร้อมๆ กับหล่นไปด้วย 

เมื่อใบยางพาราหล่น ลงแทบจะหมดต้น และแทบทั้งสวน นั่นก็แสดงว่า จะปล่อยโอกาสให้แสงแดดสาดส่องลงสู่ส่วนเต็มๆ ละครับ ผลก็คือ ในสวนเราก็ร้อนละสิ ไม่มีใบยางพาราช่วยบังแดดให้แล้ว แต่ก็ทนได้ครับ เพราะใบใหม่จะโป่งขึ้นมาไวมาก แต่เขียวช้าสักหน่อย แล้วจะดีเอง

ช่วงปิดหน้ายาง ชาวสวนเอารายได้มาจากไหน

เอาละสิ หลายคนก็มีทางออก สำหรับรายได้ เพราะว่ามีที่เยอะ ทำอาชีพหลายอย่าง ทั้งทำสวนยาง ทั้งทำนา และเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ และทำฟาร์มเห็ด เป็นต้น ก็จะดีหน่อย แต่สำหรับคนที่ไม่มีอาชีพอื่นเสริม ก็เสร็จเลย ทางเหนือแถบที่ผมอยู่นี่ จำเป็นต้องหยุดกรีดยาง หรือ ปิดหน้ายาง ประมาณ 3-4 เดือนเลยทีเดียว ถ้ามีอาชีพอย่างเดียว ก็เท่ากับว่า กรีดยางหาเงิน 8 เดือน แล้วใช้เงิน 12 เดือน เหนื่อยเนอะ

การหน้ายางทำอย่างไร 

อย่างที่กล่าวมาแล้วว่า การปิดหน้ายาง ก็คือ การหยุดกรีดยาง สำหรับชาวสวนเรา เมื่อปิดหน้ายางก็ต้องทำการเอา ดินทาหน้ายาง ซึ่งเป็นดินที่ผสมสารป้องกันเชื้อรา มาทาหน้ายาง หรือ บริเวณที่กรีดยางไว้ เพื่อป้องกันอะไรหลายๆ อย่างนะ ว่าไปแล้ว อีกทั้งก็บอกให้คนอื่นรู้ไปด้วยนะเนี่ยะว่า ผมหยุดกรีดแล้วคร้าบ ประมาณนี้ :) ดังนั้นสิ่งที่เราทำกันก็คือ

-- ทาหน้ายาง

-- เอียงจอกยาง หรือ เอาจอกห้อยไว้ข้างต้นยาง

-- ทำแนวกันไฟ เพื่อระวังป่า หรือไฟจากนักล่าสัตว์ป่า

-- บางส่วนก็จะมีการเลี้ยงสวน หรือ เลี้ยงผี เจ้าที่เจ้าสวน ซึ่งช่วยดูแลปกปักรักษาสวน (แล้วแต่ความเชื่อ)

ระยะเวลาที่หยุดกรีด

ระยะเวลาที่หยุดกรีดกัน แถบนี้ก็อย่างที่กล่าวมาแล้วว่า ประมาณ 3-4 เดือน คือ ช่วงเดือน กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน และ พฤษภาคม เป็นช่วงที่หยุด เพราะต้นยางผลัดใบ เราต้องการให้ต้นยางนำธาตุอาหารไปเสี้ยงส่วนที่จำเป็นเสียก่อน

จะกรีดยางช่วงเวลานั้นได้ไหม

คำว่า  ช่วงเวลานั้น (อิอิ) คือ ช่วงเวลาปิดหน้ายาง บางแห่งดินอุ้มน้ำได้ดี และการผลัดใบไว หรือ ผลัดกันทีละครึ่งต้น หรือ ต้องการเงิน ก็สามารถกรีดได้เหมือนกัน แต่ผลที่ด้านนั้น ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะถ้าถามคนทำ เขาก็จะตอบมาว่า "ออกดี" "ออกดีมากเลย" ประมาณนี้ ฉะนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนก็แล้วกัน

รัฐบาลช่วยอะไรบ้าง

อันนี้นี่ เป็นสิ่งที่น่าคิดมากๆ เนื่องจากว่า เรา ในฐานะที่ชาวสวนยาง เมื่อ ปิดหน้ายาง ก็ไม่มีรายได้จากการกรีดยางพาราอีกแล้ว และหลายเดือนด้วย แต่รัฐบาลไม่ได้ช่วยอะไรเลย  ผมก็เลยคิดเผื่อให้เพื่อนๆ ชาวสวนว่า เราน่าจะไปทำ ประกันสังคม มาตรา 40 ผมยังไม่ได้ทำเหมือนกัน ว่าจะไปทำภายในเดือนสองเดือนนี่แหละครับ

ประกันสังคม มาตรา 40 เป็นอย่างไร

สำหรับการทำ ประกันสังคม มาตรา 40 นั้นเป็นการทำประกันสังคมสำหรับอาชีพอิสระครับ จะเป็นแม่ค้าขายข้าวแกง คนขายไอติม ชาวนา ชาวสวน ทำได้หมด มันจะมีอยู่ 2 กลุ่ม สำหรับผมสนใจอ่านให้คลิกที่นี่ ---> ประกันสังคม มาตรา 40 <--- 

ทำไมผมชวนไปทำประกันสังคม?

เพราะในนั้นบอกไว้ว่า เมื่อผู้เอาประกันตน "ว่างงาน" "ไม่มีงานทำ" ทางประกันสังคมจะจ่ายเงินช่วยการดำรงชีพ ตาม เงื่อนไขการรับประโยชน์ทดแทน ผู้ประกันตนมาตรา 40 เรานำมาใช้ประโยชน์ได้ ที่สำคัญทางรัฐบาลจะจ่ายเงิน สมทบ ให้เราอีก 50 บาท

เอาละครับ วันนี้ ผมได้กล่าวถึงเรื่อง การปิดหน้ายาง เพื่อบอกกล่าวและสื่อความถึง ผู้ที่ไม่รู้อาชีพของคนกรีดยาง แล้วยังบอกถึงรัฐบาล (ที่อยากทำ)เพื่อประชาชนด้วย แล้วยังชวนกันไปทำ ประกันสังคม มาตรา 40 สำหรับอาชีพอิสระ คือ อาชีพกรีดยาง หรือ คนทำสวนยาง เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อพวกเราทุกคน เนื่องจากเราก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ที่จะสร้างความเคลื่อนไหวในสังคมไทยเราอีกส่วนหนึ่ง ครับ